รายงานคณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน

คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน โดยการแต่งตั้งของคณะกรรมการบริษัท ประกอบด้วยกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 4 คน โดยมีพลเอกเชษฐา ฐานะจาโร ซึ่งเป็นกรรมการอิสระเป็นประธานกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน นายวิฑูร เตชะทัศนสุนทร นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ และ ศ.(พิเศษ) อรรถพล  ใหญ่สว่าง เป็นกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน ทำหน้าที่ดูแลกระบวนการสรรหาบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเพื่อดำรงตำแหน่งกรรมการ และกรรมการผู้จัดการ รวมทั้งการพิจารณาค่าตอบแทนของกรรมการและกรรมการผู้จัดการ ให้เป็นไปด้วยความโปร่งใสและเป็นธรรมตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด  

ในปี 2567 คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน มีการประชุมรวมทั้งสิ้นจำนวน 3 ครั้ง โดยกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทนแต่ละคนเข้าประชุมครบทุกครั้ง ดังนี้ (1) พลเอกเชษฐา ฐานะจาโร (เข้าร่วมประชุม 3/3 ครั้ง) (2) นายวิฑูร เตชะทัศนสุนทร (เข้าร่วมประชุม 3/3 ครั้ง) (3) นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ (เข้าร่วมประชุม 3/3 ครั้ง) และ (4) ศ.(พิเศษ) อรรถพล ใหญ่สว่าง (เข้าร่วมประชุม 3/3 ครั้ง) 

คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทนได้ปฏิบัติหน้าที่ภายใต้ขอบเขตอำนาจหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริษัทด้วยความระมัดระวังรอบคอบ โดยสรุปสาระสำคัญการปฏิบัติหน้าที่ในปี 2567 ดังนี้

1. พิจารณาคัดเลือกบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัทตามหลักเกณฑ์และกระบวนการในการสรรหากรรมการของบริษัท ดังนี้

• พิจารณาคุณสมบัติและบทบาทการปฏิบัติหน้าที่ในปีที่ผ่านมาของกรรมการที่ออกตามวาระ และเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 เพื่อแต่งตั้งกลับเข้าดำรงตำแหน่งอีกวาระหนึ่งจำนวน 6 คน
• พิจารณาคุณสมบัติบุคคลเพื่อเสนอแต่งตั้งเป็นกรรมการบริษัทเพื่อให้คณะกรรมการบริษัทมีความหลากหลายทางทักษะที่จำเป็นในสาขาวิชาชีพต่างๆ ที่เป็นประโยชน์เหมาะสมกับการประกอบธุรกิจของบริษัท รวมทั้งสอดคล้องกับแนวปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี
• พิจารณาคุณสมบัติผู้แทนตามเงื่อนไขสัญญาสัมปทานจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ซึ่งเป็นบุคคลที่มีความรู้ด้านสัญญาสัมปทาน และมีประสบการณ์ในการบริหารงานด้านทางพิเศษ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อบริษัท และสอดคล้องกับแนวปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยคำนึงถึงความสมดุลระหว่างความหลากหลายในด้านต่างๆ ของคณะกรรมการบริษัท ที่จะเป็นประโยชน์และเพิ่มมูลค่าให้แก่บริษัท โดยพิจารณาจากทักษะที่จำเป็นที่ยังขาดอยู่ในคณะกรรมการและคุณสมบัติสอดคล้องกับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจของบริษัท

2. ทบทวนหลักเกณฑ์การพิจารณาและกำหนดค่าตอบแทนกรรมการสำหรับปี 2567

พิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์การพิจารณาค่าตอบแทนกรรมการบริษัทและกรรมการชุดย่อย ซึ่งกำหนดตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับขอบเขตภาระหน้าที่ความรับผิดชอบของกรรมการแต่ละคนอยู่ในระดับเดียวกับอุตสาหกรรมเดียวกัน ที่สามารถจูงใจและรักษากรรมการที่มีความรู้ความสามารถ และมีคุณภาพในการปฏิบัติหน้าที่ให้กับบริษัท องค์ประกอบของค่าตอบแทนมีความชัดเจน โปร่งใส ง่ายต่อการเข้าใจ โดยนำเสนอค่าตอบแทนกรรมการสำหรับปี 2567 และโบนัสกรรมการสำหรับปี 2566 ให้คณะกรรมการบริษัทพิจารณา
ก่อนนำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติ

3. พิจารณาการประเมินผลการปฏิบัติงานประจำปีของคณะกรรมการบริษัท คณะกรรมการชุดย่อย และการประเมินตนเองของคณะกรรมการรายบุคคล โดยนำเสนอผลการประเมินต่อคณะกรรมการบริษัทเพื่อรับทราบผลการประเมิน รวมทั้ง เสนอความเห็นต่างๆ เพื่อนำไปปรับปรุงการปฏิบัติงานของคณะกรรมการบริษัท และคณะกรรมการชุดย่อยแต่ละคณะให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

4. พิจารณาเสนอแต่งตั้งกรรมการผู้จัดการ และกำหนดค่าตอบแทน

พิจารณาผลการปฏิบัติงานในปี 2567 ของกรรมการผู้จัดการประกอบกับเหตุผลความจำเป็นในการทำหน้าที่บริหารงานสำคัญตามแผนงานบริษัทปี 2568 ที่ยังต้องทำต่อเนื่องจากปี 2567 และพิจารณากำหนดค่าตอบแทนกรรมการผู้จัดการให้อยู่ในระดับที่จูงใจ เหมาะสมกับขอบเขตภาระหน้าที่ความรับผิดชอบ โดยพิจารณาจากผลประเมินการปฏิบัติงาน ประกอบกับผลการดำเนินงานของบริษัท และนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเพื่อพิจารณาอนุมัติ

โดยสรุปคณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทนได้ปฏิบัติหน้าที่ครบถ้วนตามที่ได้ระบุไว้ในกฎบัตรคณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทนที่ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัท โดยใช้ความรู้ความสามารถ ความระมัดระวัง และความเป็นอิสระอย่างเพียงพอในการให้ความเห็นและข้อเสนอแนะเพื่อประโยชน์โดยรวมของบริษัท